รู้หรือไม่ เทศกาล สุดฮิตมีอะไรบ้าง
รู้หรือไม่ว่าในแต่ละปีมี เทศกาล สุดฮิตมากมายที่ผู้คนทั่วทุกมุมโลกตั้งตารออย่างใจจดใจจ่อ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองกันอย่างยิ่งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลที่มีรากฐานจากความเชื่อทางศาสนา เทศกาลทางวัฒนธรรม ที่สะท้อนเอกลักษณ์ท้องถิ่น หรือแม้แต่เทศกาลแห่งการพักผ่อน ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน เทศกาลสำคัญอย่างปีใหม่ คริสต์มาส ฮาโลวีน ตรุษจีน และสงกรานต์ ต่างมีเรื่องราวเบื้องหลัง และ ความหมายที่น่าสนใจ ซึ่งไม่เพียงแค่เป็นช่วงเวลาแห่งความสุข และ การพบปะสังสรรค์เท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัว เพื่อนฝูง รวมถึงชุมชนอีกด้วย
เทศกาลเหล่านี้ยังเป็นโอกาสสำคัญในการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและเปิดโอกาสให้เราได้เรียนรู้ประเพณีของประเทศต่าง ๆ อย่างลึกซึ้ง โดยบางเทศกาลเป็นที่รู้จักและจัดขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก ส่วนบางเทศกาลก็มีความเฉพาะตัวและสามารถบ่งบอกถึงวัฒนธรรมของชุมชนท้องถิ่นได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการแต่งกาย อาหาร ดนตรี หรือกิจกรรมที่จัดขึ้นในช่วงเวลานั้น ๆ ทำให้เทศกาลกลายเป็นส่วนสำคัญของการใช้ชีวิต และ การสืบทอดมรดกทางวัฒนธรรมที่มีคุณค่า
ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปสำรวจโลกของ เทศกาล ยอดนิยมต่าง ๆ ที่ไม่เพียงแต่เต็มไปด้วยสีสัน และ ความสนุก แต่ยังสะท้อนถึงวัฒนธรรม และ วิถีชีวิตของผู้คนทั่วโลกอย่างแท้จริง
เทศกาลปีใหม่ (New Year’s Eve)
ถือเป็นหนึ่งใน เทศกาล ที่ได้รับความนิยม และ จัดอย่างยิ่งใหญ่ที่สุดทั่วโลก การเฉลิมฉลองการสิ้นสุดของปีเก่า และ การต้อนรับปีใหม่เปรียบเสมือนการทิ้งสิ่งเก่า เริ่มต้นสิ่งใหม่อย่างสดใส โดยผู้คนจะจัดงานปาร์ตี้ งานเลี้ยงสังสรรค์ รวมถึงกิจกรรมต่าง ๆ ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน และ ความสุข
หนึ่งในไฮไลท์ของเทศกาลปีใหม่ ที่หลายคนตั้งตารอคือการแสดงดอกไม้ไฟที่สวยงามอลังการ ซึ่งมักจะจัดขึ้นในเมืองใหญ่ ๆ ทั่วโลก เช่น การแสดงดอกไม้ไฟที่กรุงลอนดอน ริมแม่น้ำเทมส์ การปล่อยลูกบอลที่ไทม์สแควร์ในนิวยอร์ก หรือแม้แต่การเฉลิมฉลองที่สนามหลวงในประเทศไทย นอกจากดอกไม้ไฟแล้ว หลายประเทศยังมีกิจกรรมพิเศษที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น การส่งการ์ดอวยพร การทำบุญเพื่อความเป็นสิริมงคล หรือการรวมตัวของครอบครัวและเพื่อนฝูงเพื่อร่วมเคานต์ดาวน์ต้อนรับปีใหม่
เทศกาลปีใหม่ไม่เพียงแต่เป็นโอกาสในการเฉลิมฉลองและสังสรรค์เท่านั้น แต่ยังเป็นช่วงเวลาที่ผู้คนใช้เพื่อทบทวนสิ่งที่ผ่านมาในปีเก่า ตั้งเป้าหมายใหม่ ๆ และให้คำสัญญาแก่ตนเองว่าจะพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นในปีต่อไป ความสำคัญของเทศกาลนี้ยังทำให้หลายประเทศมีประเพณีและวัฒนธรรมเฉพาะตัวที่สะท้อนถึงความเชื่อและวิถีชีวิตของแต่ละท้องถิ่นอีกด้วย
เทศกาลคริสต์มาส (Christmas)
จัดขึ้นในวันที่ 25 ธันวาคมของทุกปี เป็นเทศกาลที่สำคัญในศาสนาคริสต์เพื่อเฉลิมฉลองการประสูติของพระเยซูคริสต์ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในหลายประเทศทั่วโลก นอกจากเป็นวันสำคัญทางศาสนาแล้ว คริสต์มาสยังเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่เต็มไปด้วยบรรยากาศอันอบอุ่นของการมอบของขวัญ การแสดงความรัก และความปรารถนาดีต่อครอบครัว เพื่อนฝูง และคนรอบข้าง
บ้านเรือนและสถานที่สาธารณะจะถูกประดับด้วยไฟสวยงาม ต้นคริสต์มาสที่ประดับประดาด้วยลูกบอลสีสันต่าง ๆ และไฟระยิบระยับ รวมถึงของตกแต่งแบบดั้งเดิม เช่น พวงหรีด ถุงเท้า และเทียน นอกจากนี้ การแลกของขวัญยังเป็นธรรมเนียมที่ได้รับความนิยมในหลายประเทศ โดยเด็ก ๆ มักเฝ้ารอของขวัญจากซานตาคลอส ผู้ที่เชื่อกันว่าจะเดินทางมามอบของขวัญให้กับเด็กดีในคืนคริสต์มาสอีฟ
ในช่วงคริสต์มาส หลายครอบครัวจะรวมตัวกันเพื่อจัดงานเลี้ยงเฉลิมฉลอง ซึ่งมักประกอบด้วยอาหารพิเศษ เช่น ไก่งวง แฮม ขนมปังขิง และพายผลไม้ นอกจากการทานอาหารร่วมกันแล้ว หลายคนยังใช้เวลานี้ในการทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัวและเพื่อน ๆ เช่น การร้องเพลงคริสต์มาส (caroling) การแลกของขวัญ หรือการเข้าร่วมพิธีทางศาสนาในโบสถ์
คริสต์มาสจึงเป็นเทศกาลที่ไม่ได้เฉลิมฉลองแค่การเกิดของพระเยซูคริสต์เท่านั้น แต่ยังเป็นช่วงเวลาแห่งความสุข การแบ่งปัน และการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างคนในครอบครัวและชุมชน ทำให้เทศกาลนี้เต็มไปด้วยความหมายที่ลึกซึ้งและเป็นที่รักของผู้คนทั่วโลก
เทศกาลฮาโลวีน (Halloween)
ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 31 ตุลาคมของทุกปี เป็นเทศกาลที่มีความเป็นเอกลักษณ์และน่าตื่นเต้น ซึ่งมีรากฐานมาจากประเพณีโบราณของชาวเคลต์ในการเฉลิมฉลองวันแห่งความตายหรือ Samhain ที่เชื่อกันว่าในคืนวันนั้น โลกของคนเป็นและคนตายจะเชื่อมต่อกัน โดยวิญญาณของผู้ล่วงลับจะเดินทางกลับมายังโลกมนุษย์ ความเชื่อนี้กลายมาเป็นพื้นฐานของฮาโลวีนที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน
หนึ่งในสิ่งที่ทำให้ฮาโลวีนสนุกและมีสีสันคือการแต่งตัวเป็นผีหรือสิ่งมีชีวิตในตำนาน ซึ่งผู้คนโดยเฉพาะเด็ก ๆ จะสวมชุดแฟนซีที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นผีปอบ แม่มด หรือซอมบี้ ก่อนออกไปเดินขบวนตามบ้านในชุมชนเพื่อเล่นกิจกรรมที่เรียกว่า “Trick or Treat” โดยเด็ก ๆ จะเคาะประตูบ้านพร้อมถามว่า “ขนมหรือแกล้ง” เพื่อขอขนมหวานจากเจ้าของบ้าน หากไม่มีขนมให้ พวกเขาอาจเล่นสนุกด้วยการแกล้งอย่างน่ารัก ๆ
การเฉลิมฉลองฮาโลวีนไม่ได้จำกัดเพียงแค่การแต่งตัวและการเล่น Trick or Treat เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการประดับบ้านด้วยฟักทองที่แกะสลักเป็นใบหน้าที่น่ากลัวซึ่งรู้จักกันในชื่อ “แจ็ก-โอ-แลนเทิร์น” นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมอย่างการจัดปาร์ตี้ฮาโลวีนที่เต็มไปด้วยการตกแต่งสยองขวัญ การแข่งขันแต่งชุดแฟนซี การเล่าเรื่องผี และการดูภาพยนตร์แนวสยองขวัญ
ถึงแม้ว่าฮาโลวีนจะมีต้นกำเนิดจากความเชื่อในเรื่องวิญญาณและความตาย แต่ปัจจุบันได้กลายเป็นเทศกาลแห่งความสนุกสนานและการแสดงออกทางความคิดสร้างสรรค์ในรูปแบบของการแต่งกาย การตกแต่ง และกิจกรรมต่าง ๆ ทำให้เทศกาลนี้เป็นหนึ่งในเทศกาลที่ผู้คนรอคอยและมีการเฉลิมฉลองอย่างแพร่หลายในหลายประเทศทั่วโลก
เทศกาลสงกรานต์ (Songkran Festival)
ถือเป็นหนึ่งในเทศกาลที่ยิ่งใหญ่และมีความสำคัญที่สุดของไทย โดยจัดขึ้นในช่วงเดือนเมษายน ซึ่งเป็นเดือนที่ร้อนที่สุดของปี และเป็นการเฉลิมฉลองวันขึ้นปีใหม่ไทย สงกรานต์ไม่เพียงแต่เป็นเทศกาลแห่งความสนุกสนานจากการเล่นสาดน้ำเท่านั้น แต่ยังเป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความหมายทางศาสนาและวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน
น้ำเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเทศกาลนี้ โดยการสาดน้ำกันในช่วงสงกรานต์ไม่ใช่แค่เพื่อคลายร้อน แต่ยังแสดงถึงการล้างบาปและความชั่วร้ายออกไป พร้อมกับการต้อนรับสิ่งดี ๆ ในชีวิต เป็นการเริ่มต้นปีใหม่ด้วยความบริสุทธิ์ใจและความหวังดีต่อกัน คนไทยจะออกไปสาดน้ำกันตามท้องถนน ร่วมสนุกกับครอบครัว เพื่อนฝูง และคนแปลกหน้าที่พบเจอ ทำให้สงกรานต์กลายเป็นเทศกาลที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ
นอกจากการเล่นน้ำแล้ว สงกรานต์ยังมีประเพณีที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อทางศาสนาที่สำคัญ เช่น การทำบุญตักบาตรเพื่อสะสมบุญและเสริมสิริมงคลให้แก่ชีวิต การก่อเจดีย์ทราย การรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่เพื่อขอพรและแสดงความกตัญญู นอกจากนี้ ยังมีการสรงน้ำพระพุทธรูปเพื่อความเป็นสิริมงคลและการเริ่มต้นปีใหม่ด้วยความสุขสงบ
เทศกาลสงกรานต์เป็นเทศกาลที่สะท้อนถึงความเป็นไทยอย่างแท้จริง ทั้งในแง่ของการรักษาประเพณีวัฒนธรรม การให้ความสำคัญกับครอบครัว และการเฉลิมฉลองร่วมกันในบรรยากาศที่เป็นมิตรและสนุกสนาน เป็นช่วงเวลาที่ไม่เพียงแต่นำความสุขมาให้กับชาวไทย แต่ยังเป็นเสน่ห์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร
เทศกาลโอลิมปิก (Olympic Games)
เป็นงานกีฬาระดับโลกที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งจัดขึ้นทุก 4 ปี โดยแบ่งเป็นสองประเภทหลัก คือ โอลิมปิกฤดูร้อนและโอลิมปิกฤดูหนาว งานนี้เป็นเวทีสำคัญที่นักกีฬาจากทั่วโลกมารวมตัวกันเพื่อแข่งขันในกีฬาหลากหลายประเภท โดยมีจุดประสงค์สำคัญในการส่งเสริมความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ความสามัคคี และความร่วมมือระหว่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันในรูปแบบทีมชาติหรือการแข่งขันส่วนบุคคล
โอลิมปิกมีจุดเริ่มต้นจากโอลิมปิกโบราณในประเทศกรีซ ซึ่งจัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองความแข็งแกร่งของมนุษย์และเป็นการถวายพระเกียรติให้กับเทพเจ้า ต่อมาในศตวรรษที่ 19 โอลิมปิกยุคใหม่ได้ถูกฟื้นฟูขึ้นมาใหม่และกลายเป็นงานกีฬาที่เชิดชูค่านิยมของการเล่นอย่างยุติธรรม การเคารพในคู่แข่ง และการใช้กีฬาเป็นสะพานเชื่อมระหว่างวัฒนธรรมและเชื้อชาติ
เทศกาลดอกไม้ซากุระ (Cherry Blossom Festival)
เทศกาลดอกไม้ซากุระ (Cherry Blossom Festival) เป็นหนึ่งในเทศกาลที่โด่งดังและเป็นที่รักของคนทั่วโลก โดยจัดขึ้นในประเทศญี่ปุ่นในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งตรงกับช่วงที่ดอกซากุระบานสะพรั่งเต็มต้น สีชมพูอ่อนของดอกซากุระไม่เพียงแต่ทำให้ทิวทัศน์ของญี่ปุ่นงดงาม แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความเปลี่ยนแปลงและการเริ่มต้นใหม่ ซึ่งเข้ากับช่วงเวลาของฤดูใบไม้ผลิอย่างลงตัว
เทศกาลนี้มีชื่อเรียกในภาษาญี่ปุ่นว่า “ฮานามิ” (Hanami) ซึ่งแปลว่า การชมดอกไม้ ผู้คนจะรวมตัวกันที่สวนสาธารณะและสถานที่ธรรมชาติเพื่อชมความงามของดอกซากุระบาน นิยมจัดปิกนิกใต้ต้นซากุระพร้อมกับครอบครัว เพื่อนฝูง หรือเพื่อนร่วมงาน ในขณะที่นั่งเพลิดเพลินกับบรรยากาศที่ร่มรื่นและวิวทิวทัศน์อันงดงาม
ในช่วงเทศกาลดอกไม้ซากุระ เมืองต่าง ๆ ของญี่ปุ่นจะเต็มไปด้วยกิจกรรมและการเฉลิมฉลอง เช่น การเดินชมซากุระตามทางเดิน การแสดงดนตรีและการแสดงวัฒนธรรมพื้นเมือง รวมถึงการจัดงานเทศกาลกลางแจ้งที่มีอาหารท้องถิ่นและขนมหวานแบบญี่ปุ่นให้ลิ้มลอง นอกจากนี้ บางพื้นที่ยังมีการประดับไฟตอนกลางคืนเพื่อให้ผู้คนได้ชมความงามของดอกซากุระในบรรยากาศที่โรแมนติก
เทศกาลดอกไม้ซากุระจึงเป็นช่วงเวลาที่ชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวทั่วโลกต่างตั้งตารอ เป็นเทศกาลที่ไม่เพียงแต่นำความสุขและความงดงามมาให้ แต่ยังเป็นโอกาสที่ผู้คนจะได้หยุดพักผ่อนและใช้เวลาร่วมกับคนที่พวกเขารัก
เทศกาลคาร์นิวัล (Carnival)
เทศกาลคาร์นิวัล (Carnival) เป็นงานเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่และเต็มไปด้วยสีสัน ซึ่งจัดขึ้นก่อนการเริ่มต้นเทศกาลถือศีลของศาสนาคริสต์ (Lent) โดยเฉพาะในประเทศที่มีวัฒนธรรมคาทอลิกเข้มแข็ง หนึ่งในเทศกาลคาร์นิวัลที่โด่งดังที่สุดคือ คาร์นิวัลที่ริโอเดจาเนโร (Rio de Janeiro Carnival) ในบราซิล ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นงานเฉลิมฉลองที่ใหญ่ที่สุดในโลกและดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเข้าร่วมงาน
คาร์นิวัลเป็นช่วงเวลาที่ผู้คนจะได้ปลดปล่อยความสนุกสนานผ่านการเต้นรำ การแต่งตัวด้วยชุดแฟนซีที่ประดับประดาด้วยขนนกและเครื่องประดับอันตระการตา รวมถึงการแสดงขบวนพาเหรดที่ยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะขบวนพาเหรดแซมบ้าที่ริโอเดจาเนโรซึ่งถือเป็นไฮไลท์สำคัญของงานนี้ ขบวนพาเหรดจะมีโรงเรียนสอนแซมบ้าหลายแห่งมาแข่งขันกันในด้านการเต้นและการตกแต่งขบวนเพื่อชิงรางวัล โดยโรงเรียนแซมบ้าแต่ละแห่งจะเตรียมการกันเป็นเวลานานหลายเดือน เพื่อให้การแสดงออกมาอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด
นอกจากการเต้นรำและขบวนพาเหรดแล้ว เทศกาลคาร์นิวัลยังเต็มไปด้วยกิจกรรมเฉลิมฉลองอื่น ๆ เช่น การจัดปาร์ตี้กลางแจ้ง การเล่นดนตรีสด และการแสดงดนตรีพื้นเมืองแบบบราซิล เช่น แซมบ้าและบอสซาโนวา นอกจากนี้ การแต่งกายด้วยชุดแฟนซีหลากสีสันและการประดับหน้ากากเป็นส่วนสำคัญของคาร์นิวัล โดยหน้ากากเป็นสัญลักษณ์ที่สะท้อนถึงความเท่าเทียมและอิสรภาพในการแสดงออก เพราะในช่วงเวลานี้ทุกคนไม่ว่าจะมีฐานะหรือสถานะใด ก็สามารถเข้าร่วมสนุกได้อย่างเสมอภาคกัน
เทศกาลเกย์พาเหรด (Pride Parade)
เป็นเทศกาลที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองความหลากหลายทางเพศและสนับสนุนสิทธิของชุมชน LGBTQ+ ทั่วโลก เทศกาลนี้มีจุดเริ่มต้นจากการต่อสู้เพื่อความเท่าเทียมและสิทธิเสรีภาพของผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ โดยเฉพาะหลังจากเหตุการณ์สโตนวอลล์ (Stonewall Riots) ในปี 1969 ที่นิวยอร์ก ซึ่งเป็นเหตุการณ์สำคัญที่ก่อให้เกิดการเคลื่อนไหวทางสังคมเพื่อสิทธิเพศทางเลือกและได้ขยายตัวไปทั่วโลก
ปัจจุบัน เทศกาลเกย์พาเหรดจัดขึ้นในหลายเมืองสำคัญ เช่น นิวยอร์ก, ลอนดอน, ซานฟรานซิสโก, และกรุงเทพฯ โดยมีการเดินขบวนขบวนพาเหรดที่เต็มไปด้วยสีสันและความสนุกสนาน ผู้เข้าร่วมงานแต่งกายด้วยชุดแฟนซีที่แสดงออกถึงอัตลักษณ์และความเป็นตัวของตัวเอง บางคนสวมใส่เสื้อผ้าที่ประดับด้วยสีรุ้งซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความหลากหลายทางเพศ การเดินขบวนเป็นการแสดงออกถึงการยอมรับในความหลากหลายและการสนับสนุนสิทธิเสรีภาพในทุกมิติ
นอกจากการเดินขบวนแล้ว เทศกาลเกย์พาเหรดยังมีการจัดแสดงดนตรีสด การแสดงศิลปะ และกิจกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรม LGBTQ+ งานนี้เป็นพื้นที่ที่ทุกคนสามารถแสดงความเป็นตัวเองได้อย่างอิสระและปลอดภัย และเป็นการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพของชุมชน LGBTQ+ ในสังคม
สำหรับกรุงเทพฯ เทศกาลนี้กลายเป็นหนึ่งในงานที่ผู้คนให้ความสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยการสนับสนุนจากทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ การจัดงานพาเหรดในกรุงเทพฯ ไม่เพียงแต่เป็นการเฉลิมฉลองความหลากหลายทางเพศเท่านั้น แต่ยังแสดงถึงความเปิดกว้างและการยอมรับในสังคมไทย
เทศกาลระลึกถึงคนตาย หรือ Día de los Muertos
เป็นเทศกาลที่มีชื่อเสียงและเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมเม็กซิโก จัดขึ้นในวันที่ 1 และ 2 พฤศจิกายนของทุกปี เพื่อระลึกถึงและเฉลิมฉลองชีวิตของผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว เทศกาลนี้มีความเชื่อว่าในช่วงเวลาดังกล่าว วิญญาณของคนตายจะกลับมาเยี่ยมครอบครัวของตนในโลกมนุษย์
การเฉลิมฉลองในเทศกาลนี้เต็มไปด้วยสีสันและประเพณีที่มีความหมายลึกซึ้ง คนจะสร้างแท่นบูชา (ofrendas) ที่ประดับประดาด้วยสิ่งของที่คนตายชื่นชอบ เช่น อาหาร เครื่องดื่ม รูปภาพของผู้ล่วงลับ และดอกดาวเรือง (marigold) ที่เป็นสัญลักษณ์ของความตาย นอกจากนี้ ขนมปังที่มีชื่อว่า Pan de Muerto และขนมหวานในรูปทรงของหัวกะโหลก (sugar skulls) ก็เป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองด้วย
Día de los Muertos ไม่ได้เป็นการไว้อาลัยอย่างเศร้าโศก แต่เป็นการเฉลิมฉลองชีวิตและความทรงจำของผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ในหลายพื้นที่ของเม็กซิโก ผู้คนจะออกไปที่สุสานเพื่อทำความสะอาดและตกแต่งหลุมศพของครอบครัว พร้อมกับนั่งเฉลิมฉลองและพูดคุยถึงความทรงจำดีๆ ที่เคยมีร่วมกัน ถือเป็นเทศกาลที่สะท้อนถึงความเชื่อในเรื่องการเชื่อมโยงระหว่างคนเป็นและคนตายที่ยังคงมีอยู่
เทศกาลช็อคโกแลต (Salon du Chocolat)
เป็นงานแสดงสินค้าที่สร้างความตื่นเต้นให้กับคนรักช็อคโกแลตทั่วโลก โดยงานนี้จัดขึ้นในหลายเมืองใหญ่ เช่น ปารีส, โตเกียว, และนิวยอร์ก เป็นเทศกาลที่รวมช็อคโกแลตจากทั่วโลกมาไว้ในที่เดียว ทั้งเพื่อการแสดง การสาธิตการทำช็อคโกแลต และเปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมได้ลิ้มลองช็อคโกแลตคุณภาพสูงจากหลายประเทศ
จุดเด่นของงาน Salon du Chocolat คือการนำเสนอช็อคโกแลตในรูปแบบที่สร้างสรรค์และหลากหลาย มีการจัดแสดงงานฝีมือจากช็อคโกแลต เช่น ประติมากรรมที่สร้างจากช็อคโกแลต งานแฟชั่นโชว์ที่ใช้ช็อคโกแลตเป็นส่วนหนึ่งของชุด และการสาธิตการทำขนมและของหวานที่เกี่ยวข้องกับช็อคโกแลตโดยเชฟชื่อดังระดับโลก ผู้เข้าร่วมสามารถเรียนรู้เทคนิคการทำช็อคโกแลตและลองทำด้วยตนเองได้ในเวิร์กช็อคต่าง ๆ
อีกหนึ่งไฮไลท์ของเทศกาลนี้คือการชิมช็อคโกแลตจากผู้ผลิตช็อคโกแลตชื่อดังทั่วโลก ตั้งแต่ช็อคโกแลตจากฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ ไปจนถึงช็อคโกแลตจากอเมริกาใต้ที่มีรสชาติเข้มข้นและเป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมยังสามารถเลือกซื้อช็อคโกแลตที่มีคุณภาพดีเพื่อนำกลับบ้าน หรือเป็นของขวัญที่สมบูรณ์แบบสำหรับคนพิเศษ
หากกำลังมองหาสินค้าพรีเมียม หรือ ของพรีเมี่ยม เพื่อให้ของขวัญในเทศกาลต่างๆ ติดต่อเราได้ที่ Buddy Premium