ตรุษจีนคืออะไร? รู้จักเพื่อเริ่มต้นปีใหม่ด้วยโชคลาภและความสุข

ตรุษจีนคืออะไร? รู้จักเพื่อเริ่มต้นปีใหม่ด้วยโชคลาภและความสุข ตรุษจีนเป็นเทศกาลที่เต็มไปด้วยความสำคัญทางด้านวัฒนธรรมและประเพณี ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ผู้คนมักจะมอบของขวัญให้แก่ครอบครัว เพื่อนฝูง และคนที่เคารพ เพื่อแสดงถึงความรักและความปรารถนาดีสำหรับปีใหม่ โดยเฉพาะการเลือกของขวัญที่มอบให้ในช่วงนี้ มักจะเน้นไปที่การเสริมโชคลาภ ความเจริญรุ่งเรือง และความสุขให้กับผู้รับ ของขวัญที่เหมาะสมจึงไม่เพียงแค่ต้องมีความสวยงามและมีประโยชน์ แต่ยังต้องมีความหมายที่เชื่อมโยงกับความเป็นสิริมงคลและการเริ่มต้นใหม่ที่ดีในปีนี้

ในบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกับความหมายที่แท้จริงของ “ตรุษจีน” ที่จะช่วยให้คุณเริ่มต้นปีใหม่ด้วยโชคลาภและความสุขที่ยั่งยืน การเข้าใจเทศกาลนี้จะไม่เพียงแต่ทำให้คุณมีความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมที่สำคัญ แต่ยังเป็นโอกาสที่ดีในการเตรียมตัวรับปีใหม่ด้วยความมงคลและพลังบวกที่เต็มเปี่ยม

ทั้งนี้ การเลือกของขวัญที่มีความหมายและสอดคล้องกับความเชื่อที่ดีในช่วงตรุษจีนจะทำให้ผู้รับรู้สึกถึงความปรารถนาดีจากผู้ให้และเปิดรับพลังบวกที่ดีตลอดทั้งปี สำหรับปีใหม่นี้เราจึงขอแนะนำผลิตภัณฑ์พรีเมียมที่ไม่เพียงแค่สวยงาม แต่ยังช่วยเสริมโชคลาภและความสุขให้ทุกๆ คนได้สัมผัสกับความพิเศษของช่วงเวลานี้อย่างแท้จริง

ตรุษจีนคืออะไร?

ตรุษจีน หรือที่เรียกว่า “เทศกาลปีใหม่จีน” เป็นหนึ่งในเทศกาลสำคัญที่สุดในปฏิทินจีน ซึ่งมีความสำคัญในแง่ของการเริ่มต้นปีใหม่ตามปฏิทินจันทรคติของจีน ตรุษจีนถือเป็นการเฉลิมฉลองการเริ่มต้นใหม่ของปี โดยมีความเชื่อที่เกี่ยวข้องกับการขับไล่สิ่งไม่ดีในปีที่ผ่านมาและการดึงดูดโชคลาภ ความเจริญรุ่งเรือง และความสุขเข้าสู่ชีวิตในปีใหม่

ในประเทศไทย ชาวไทยเชื้อสายจีนมีการปฏิบัติตามประเพณีตรุษจีนอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีชุมชนจีนเข้มแข็ง เช่น กรุงเทพมหานคร ชลบุรี และภูเก็ต ซึ่งในช่วงเทศกาลตรุษจีนนี้จะมีการจัดงานเฉลิมฉลองตามประเพณีจีนอย่างครบถ้วน โดยแบ่งออกเป็น 3 วันสำคัญ ได้แก่ วันจ่าย, วันไหว้, และ วันเที่ยว

วันจ่าย

เป็นวันก่อนวันสิ้นปีที่ชาวจีนจะไปซื้ออาหารและเครื่องเซ่นไหว้ต่างๆ เพื่อเตรียมสำหรับวันไหว้ การเตรียมของไหว้ถือเป็นสิ่งสำคัญเพื่อเสริมสิริมงคลในปีใหม่ ซึ่งจะประกอบด้วยขนม ผลไม้ และเนื้อสัตว์ที่เชื่อว่าจะนำความเจริญรุ่งเรืองมาให้ การเตรียมของในวันจ่ายจึงเป็นกิจกรรมที่สำคัญเพื่อให้ทุกอย่างพร้อมสำหรับการไหว้ในวันถัดไป

ในช่วงนี้ไม่จำเป็นต้องมีการจุดธูปอัญเชิญเจ้าที่ (ตี่จู้เอี๊ย) ลงมาจากสวรรค์ เพราะการไหว้เจ้าที่ได้ทำไปแล้วเมื่อ 4 วันที่ผ่านมา โดยเจ้าที่ไม่ได้ไปไหนหลังจากที่ได้รับการไหว้เมื่อสี่วันที่แล้ว สิ่งที่เราทำในวันจ่ายคือการเตรียมเครื่องเซ่นไหว้และส่งการสักการบูชาไปยัง “เจ้าซิ้ง” หรือ “เจ้าเตา” ที่เป็นเทพเจ้าของครัว เพื่อให้การไหว้ในวันไหว้เต็มไปด้วยความโชคดีและความเจริญรุ่งเรือง

วันไหว้

ในวันไหว้จะมีการไหว้เทพเจ้าต่างๆ และบรรพบุรุษตามลำดับช่วงเวลา โดยเริ่มจากการไหว้เทพเจ้าต่างๆ ในตอนเช้ามืด เพื่อขอพรจากเทพเจ้าที่ปกป้องบ้านเมือง ตามด้วยการไหว้บรรพบุรุษในช่วงสาย เพื่อแสดงความกตัญญู ต่อมาในตอนบ่ายจะเป็นการไหว้ผีไม่มีญาติ โดยมีการจุดประทัดเพื่อเสริมสิริมงคลและขจัดสิ่งชั่วร้ายออกไป

ตอนเช้ามืด จะเป็นการไหว้ “ป้ายเล่าเอี๊ย” ซึ่งเป็นการไหว้เทพเจ้าต่างๆ เครื่องเซ่นไหว้จะประกอบด้วยเนื้อสัตว์สามอย่าง ได้แก่ หมู เป็ด ไก่ หรือบางครอบครัวจะเพิ่มตับ ปลา เป็นเนื้อสัตว์ห้าอย่าง (โหงวแซ) นอกจากนี้ยังมีเหล้า น้ำชา และกระดาษเงินกระดาษทองที่ใช้ในการเซ่นไหว้เพื่อขอพรให้บ้านเมืองเจริญรุ่งเรืองและมีความมั่นคง

ตอนสาย จะเป็นการไหว้ “ป้ายแป๋บ้อ” หรือการไหว้บรรพบุรุษ พ่อแม่ และญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว ซึ่งเป็นการแสดงความกตัญญูตามคติของชาวจีน การไหว้ในช่วงนี้จะไม่เกินเที่ยง โดยเครื่องเซ่นไหว้จะประกอบด้วยซาแซ อาหารคาวหวาน (โดยส่วนใหญ่จะเป็นอาหารที่ผู้ล่วงลับชื่นชอบ) พร้อมทั้งการเผากระดาษเงิน กระดาษทอง และเสื้อผ้ากระดาษเพื่ออุทิศแก่ผู้ล่วงลับ หลังจากนั้นญาติพี่น้องจะมารวมตัวกันรับประทานอาหารที่ได้เซ่นไหว้ไปเป็นสิริมงคล และในช่วงนี้ยังเป็นเวลาที่ครอบครัวหรือวงศ์ตระกูลจะได้รวมตัวกันมากที่สุด พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนอั่งเปาหลังจากการรับประทานอาหารร่วมกัน

ตอนบ่าย จะเป็นการไหว้ “ป้ายฮ่อเฮียตี๋” ซึ่งเป็นการไหว้ผีพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว เครื่องเซ่นไหว้ในช่วงนี้จะมีขนมเข่ง ขนมเทียน เผือกเชื่อมน้ำตาล กระดาษเงินกระดาษทอง และมักจะมีการจุดประทัดเพื่อไล่สิ่งชั่วร้ายออกไป รวมทั้งเสริมสร้างสิริมงคลให้กับบ้านเรือนและผู้คนที่ยังมีชีวิตอยู่

วันเที่ยว

วันเที่ยว หรือที่เรียกว่า “ชิวอิก” เป็นวันที่ชาวจีนจะมารวมตัวกันเพื่อเฉลิมฉลองในวันขึ้นปีใหม่ของจีน ซึ่งตรงกับวันที่หนึ่งของเดือนแรกในปฏิทินจีน วันนี้ถือเป็นวันสำคัญที่ครอบครัวชาวจีนมักจะใช้เวลาร่วมกัน โดยเฉพาะการไปเยี่ยมเยียนญาติผู้ใหญ่และบุคคลที่เคารพรัก ในโอกาสนี้จะมีการมอบ ส้มสีทอง ให้แก่กัน ซึ่งส้มเป็นสัญลักษณ์ของโชคลาภและความสุข การให้ส้มถือเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์และความปรองดองในครอบครัว โดยส้มในภาษาแต้จิ๋วออกเสียงว่า “กิก” ซึ่งมีความหมายเกี่ยวกับความสุขหรือโชคลาภ ส่วนในภาษาฮกเกี้ยนและภาษากวางตุ้ง ส้มจะเรียกว่า “ก้าม” ซึ่งพ้องเสียงกับคำว่า “ทอง” ดังนั้นการมอบส้มจึงเหมือนการส่งต่อความโชคดีและความเจริญรุ่งเรือง

สำหรับการมอบส้มในวันเที่ยวจะมอบ ส้มจำนวน 4 ผล ซึ่งจะห่อด้วยผ้าเช็ดหน้าของผู้ชาย นอกจากนี้ในวันเที่ยวยังเป็นวันที่ชาวจีนถือธรรมเนียมโบราณหรือที่เรียกว่า “ป้ายเจีย” ซึ่งเป็นการไหว้ขอพรและอวยพรจากญาติผู้ใหญ่ โดยในวันนี้จะมีการหลีกเลี่ยงการทำสิ่งที่เป็นสิริมงคล เช่น ไม่พูดจาไม่ดีต่อกัน ไม่ทวงหนี้กัน และไม่จับไม้กวาด เพื่อให้ชีวิตในปีใหม่นี้เต็มไปด้วยความโชคดี อีกทั้งยังเป็นวันที่ชาวจีนแต่งกายด้วยเสื้อผ้าใหม่ และใช้เวลาพักผ่อนหรือเยี่ยมเยียนผู้อื่น เพื่อเสริมสร้างความสุขและความเจริญในชีวิต

การจัดของไหว้วันตรุษจีน

การจัดของไหว้ในวันตรุษจีนมักจะขึ้นอยู่กับประเพณีของแต่ละครอบครัว โดยทั่วไปจะจัดชุดไหว้ที่สื่อถึงความเจริญรุ่งเรือง เช่น การมีเนื้อสัตว์ 5 ชนิด หรือ “โหงวแซ” ที่ประกอบด้วยหมู ไก่ ตับ ปลา และอาหารพิเศษอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีผลไม้มงคล เช่น ส้มสีทอง และขนมมงคลต่างๆ เช่น ขนมเข่ง ขนมเทียน เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลในปีใหม่ นอกจากการไหว้เทพเจ้าหลักในวันตรุษจีนแล้ว ยังมีการไหว้เทพเจ้าต่างๆ ตามวันที่สำคัญในปฏิทินจีน เช่น การไหว้วันเกิดเจ้าแม่กวนอิม และการไหว้เทพยดาฟ้าดิน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความศรัทธาในครอบครัวจีน

ประเพณีการมอบของขวัญในตรุษจีน

การมอบของขวัญในเทศกาลตรุษจีนมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นการแสดงถึงความรัก ความปรารถนาดี และการส่งต่อโชคลาภให้กับคนที่เราห่วงใย ซึ่งการมอบของขวัญในช่วงตรุษจีนไม่เพียงแต่เป็นการเฉลิมฉลองปีใหม่ แต่ยังเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครอบครัว เพื่อนฝูง และเพื่อนร่วมงาน

หนึ่งในประเพณีที่เด่นชัดที่สุดในการมอบของขวัญในตรุษจีน คือ การมอบ “อั่งเปา” หรือ “ซองแดง” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการส่งต่อความโชคดีและความมั่งคั่งให้กับผู้รับ โดยทั่วไปจะมอบอั่งเปาให้กับเด็กๆ หรือบุคคลที่มีสถานะต่ำกว่า เช่น เพื่อนร่วมงานที่อายุน้อยกว่า หรือญาติที่ยังไม่แต่งงาน การให้ซองแดงไม่ใช่เพียงแค่การมอบเงิน แต่ยังเป็นการส่งความปรารถนาดี และความอบอุ่นให้กับผู้รับด้วย

โดยเฉพาะในครอบครัวที่มีเด็กๆ การมอบอั่งเปาจะเป็นสิ่งที่เด็กๆ รอคอยอย่างยิ่ง เพราะมันไม่เพียงแต่เป็นการมอบเงินที่เด็กๆ สามารถใช้ในสิ่งที่ต้องการ แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการส่งเสริมให้เด็กเติบโตในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความสุขและโชคลาภ

นอกจากอั่งเปาแล้ว ยังมีการมอบของขวัญอื่นๆ ในช่วงตรุษจีน เช่น ขนมมงคล หรือ ผลไม้ ที่มักจะเป็นผลไม้ที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของความโชคดี เช่น ส้มสีทอง ซึ่งหมายถึงความเจริญรุ่งเรืองและความสุขในชีวิต ขนมมงคลต่างๆ เช่น ขนมเข่ง ขนมเทียน ก็มีความหมายเกี่ยวข้องกับการเริ่มต้นใหม่และความเป็นมงคลในชีวิต

การมอบของขวัญเหล่านี้จึงไม่เพียงแต่เป็นการแลกเปลี่ยนของขวัญ แต่ยังเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดี และแสดงถึงความห่วงใยและความปรารถนาดีที่มีต่อกันในช่วงเวลาที่สำคัญนี้

ของขวัญพรีเมี่ยมที่มีสีมงคล ความหมายดี

ขวดน้ำหรือแก้วน้ำสีทอง – สีทองเป็นสัญลักษณ์ของความร่ำรวยและโชคลาภ ขวดน้ำหรือแก้วน้ำพรีเมี่ยมที่มีสีทองสามารถเสริมความมั่งคั่งและความเจริญรุ่งเรืองให้กับผู้รับ โดยสามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้

กระเป๋าเงินหรือกระเป๋าสตางค์สีแดง – สีแดงเป็นสัญลักษณ์ของโชคลาภและความสุข กระเป๋าสตางค์พรีเมี่ยมที่มีสีแดงจึงเป็นของขวัญที่ดีในช่วงตรุษจีน ช่วยเสริมโชคลาภในด้านการเงินและความมั่งคั่ง

ปากกาโลโก้สีทอง – ปากกาพรีเมี่ยมที่ทำจากวัสดุคุณภาพสูงในสีทองหรือแดง มีความหมายถึงความสำเร็จและการเจริญรุ่งเรืองในที่ทำงาน เหมาะสำหรับมอบให้พนักงานหรือลูกค้า

พัดสีทองหรือสีแดง – พัดที่มีสีทองหรือแดงเป็นสัญลักษณ์ของความสุขและโชคลาภ นอกจากนี้ยังมีความหมายในการขจัดสิ่งไม่ดีออกไป และนำพาความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ผู้รับ

เซ็ตเครื่องประดับทอง – เครื่องประดับพรีเมี่ยมที่ทำจากทอง เช่น กำไลข้อมือ หรือสร้อยคอ เป็นของขวัญที่มีความหรูหราและเสริมความมั่งคั่ง และโชคลาภในชีวิต

พวงกุญแจทอง – พวงกุญแจพรีเมี่ยมที่ทำจากทองหรือมีสีทอง เป็นของขวัญที่แสดงถึงการเริ่มต้นใหม่ที่ดีและการนำพาโชคดีและความมั่งคั่งเข้ามาในชีวิต

ให้ของขวัญเป็น ขนมและผลไม้ ที่มีความหมายดีและเป็นศิริมงคล

ขนมมงคลในวันตรุษจีน

1. ขนมเข่ง – ขนมที่ทำจากข้าวเหนียวและน้ำตาลปึก ถือเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งและการเติบโตอย่างยั่งยืนในปีใหม่
2. ขนมเทียน – ขนมทรงยาวห่อด้วยใบตอง มีความหมายถึงความสมบูรณ์และโชคลาภที่หลั่งไหลเข้ามา
3. ขนมปุ๊บปั๊บ – ขนมหวานสดใสสัญลักษณ์ของความสุขและความเจริญรุ่งเรือง
4. ขนมฝอยทอง – ผลิตจากไข่และน้ำตาล มีรูปร่างเหมือนทองคำแสดงถึงความมั่งคั่งและความโชคดี
5. ขนมทองหยิบ – ขนมที่มีสีทอง สื่อถึงความมั่งคั่ง ความเจริญรุ่งเรือง
6. ขนมลอดช่อง – สัญลักษณ์ของการเชื่อมสัมพันธ์ในครอบครัวและการมีชีวิตที่ยาวนาน
7. ขนมอี๋ – ขนมที่มีรสชาติหวานกลมกล่อม ใช้เสริมสิริมงคลในเรื่องความสุขและความเจริญรุ่งเรือง

ผลไม้มงคลในวันตรุษจีน

1. ส้มสีทอง – สัญลักษณ์ของโชคลาภและความสุข เนื่องจากเสียง “กิก” คล้ายคำว่าโชคลาภ
2. แตงโม – แสดงถึงความเจริญเติบโต การมีสุขภาพดีและชีวิตที่สดใส
3. ทับทิม – สัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์และความเจริญรุ่งเรือง
4. กล้วย – แสดงถึงความสมบูรณ์ การเติบโตที่ดีและมีผลมากมาย
5. สาลี่ – เป็นผลไม้ที่มีความหมายถึงความบริสุทธิ์และการมีโชคลาภที่ดี
6. องุ่น – เป็นสัญลักษณ์ของการมีสุขภาพดีและความมั่งคั่งที่ต่อเนื่อง
7. มะพร้าว – แสดงถึงความสุข ความเจริญรุ่งเรือง และการมีชีวิตที่มั่งคั่ง

ถ้าหากคุณสนใจสินค้าพรีเมี่ยม ของพรีเมี่ยมแจก เพื่อเพิ่มยอดขาย เพิ่มความสัมพันธ์กับลูกค้าหรือองค์กรในเทศกาลตรุษจีนนี้ นึกถึง Buddy Premium